นับถึงวันนี้ก็สามสิบเอ็ดปีแล้วที่สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า "คน" มีคุณครูคอยพร่ำสอนและเป็นแบบอย่างที่ดีเสมอมา
ครูคนแรกของชีวิต "พ่อแม่" ท่านเริ่มบทบาทของครูโดยพร่ำสอนตั้งแต่วันแรกที่รู้ว่ากำลังจะเป็น พ่อแม่เลยทีเดียว...แม่เคยบอกว่า "พอรู้ว่ามีลูกอยู่ในท้องทุกวันแม่จะลูบที่ท้องและบอกกับลูกว่า ขอให้ลูกของแม่เป็นเด็กดีนะจ๊ะ แล้วพ่อก็จะบอกต่อว่าพ่อจะเลี้ยงลูกให้เป็นคนดีที่สุด" พอเริ่มโตแล้วดื้อพ่อกับแม่ก็จะบอกว่า "นี่ขนาดสอนให้เป็นเด็กดีตั้งแต่ไม่เป็นตัวแล้วนะ" โว้ว! ไม่แรงแต่แสบทรวงสุดๆ กำลัจะดื้ออยู่ดีๆ หยุดเลย แรกๆ หยุดเพราะงง ฮ่าๆๆๆ แต่ตอนนี้คิดว่าพอจะเข้าใจพ่อแม่ละค่ะ
ครูคนต่อมา "พระคุณที่สาม เรือจ้าง เปลวเทียน หรือใครจะเรียกอย่างไรก็แล้วแต่สำนวนและระดับของภาษา" ครูบาอาจารย์ทุกท่านคอยประสิทธิ์ประสาทความรู้ อบรมสั่งสอนคุณธรรมและทักษะต่างๆ ให้สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า "คน" คนนี้ ได้เป็น "คนที่สมบูรณ์" เมื่อเป็นเด็กเราใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในโรงเรียน ถ้าท่านทั้งหลายละเลยการอบรมสั่งสอนเสีย ชีวิตของศิษย์คงเหลวแหลกหรือไร้จุดหมาย ท่านทั้งหลายยอมสละเวลาอบรมเด็กที่ไม่ใช่ลูกของตัวเอง เพียงเพื่อ "อยากให้ลูกศิษย์เป็นคนดี สามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับคนในสังคมได้ มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี ถ้าจะให้อินเทรนด์ก็ต้องบอกว่า - อยากให้ศิษย์เป็นคนดี คนเก่ง และมีความสุข"
ในชีวิตของคนหนึ่งคนมีครูมากมายที่คอยพร่ำสอนและเป็นแบบอย่างที่ดี(ทั้งที่เป็นครูจริงๆ ตามที่สังคมกำหนด หรือครูแห่งชีวิตก็ตาม) สิ่งที่ท่านทั้งหลายกระทำไปแล้วนั้น ได้ก่อความเจริญงอกงามแก่ชีวิตของศิษย์ ไม่มีคำกล่าวหรือคำขอบคุณใดที่จะทดแทนพระคุณของท่านทั้งหลายได้หมด ศิษย์จึงขอระลึกถึงคุณของครูทุกท่านและขอปฏิญานว่าจะปฏิบัติแต่สิ่งดีงาม ปฏิบัติแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติสืบไปค่ะ....(นาทีนี้ขออนุญาตงดติ๊งต๊องเนอะ ฮ่าๆๆๆๆๆ)
ครูคนแรกของชีวิต "พ่อแม่" ท่านเริ่มบทบาทของครูโดยพร่ำสอนตั้งแต่วันแรกที่รู้ว่ากำลังจะเป็น พ่อแม่เลยทีเดียว...แม่เคยบอกว่า "พอรู้ว่ามีลูกอยู่ในท้องทุกวันแม่จะลูบที่ท้องและบอกกับลูกว่า ขอให้ลูกของแม่เป็นเด็กดีนะจ๊ะ แล้วพ่อก็จะบอกต่อว่าพ่อจะเลี้ยงลูกให้เป็นคนดีที่สุด" พอเริ่มโตแล้วดื้อพ่อกับแม่ก็จะบอกว่า "นี่ขนาดสอนให้เป็นเด็กดีตั้งแต่ไม่เป็นตัวแล้วนะ" โว้ว! ไม่แรงแต่แสบทรวงสุดๆ กำลัจะดื้ออยู่ดีๆ หยุดเลย แรกๆ หยุดเพราะงง ฮ่าๆๆๆ แต่ตอนนี้คิดว่าพอจะเข้าใจพ่อแม่ละค่ะ
ครูคนต่อมา "พระคุณที่สาม เรือจ้าง เปลวเทียน หรือใครจะเรียกอย่างไรก็แล้วแต่สำนวนและระดับของภาษา" ครูบาอาจารย์ทุกท่านคอยประสิทธิ์ประสาทความรู้ อบรมสั่งสอนคุณธรรมและทักษะต่างๆ ให้สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า "คน" คนนี้ ได้เป็น "คนที่สมบูรณ์" เมื่อเป็นเด็กเราใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในโรงเรียน ถ้าท่านทั้งหลายละเลยการอบรมสั่งสอนเสีย ชีวิตของศิษย์คงเหลวแหลกหรือไร้จุดหมาย ท่านทั้งหลายยอมสละเวลาอบรมเด็กที่ไม่ใช่ลูกของตัวเอง เพียงเพื่อ "อยากให้ลูกศิษย์เป็นคนดี สามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับคนในสังคมได้ มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี ถ้าจะให้อินเทรนด์ก็ต้องบอกว่า - อยากให้ศิษย์เป็นคนดี คนเก่ง และมีความสุข"
ในชีวิตของคนหนึ่งคนมีครูมากมายที่คอยพร่ำสอนและเป็นแบบอย่างที่ดี(ทั้งที่เป็นครูจริงๆ ตามที่สังคมกำหนด หรือครูแห่งชีวิตก็ตาม) สิ่งที่ท่านทั้งหลายกระทำไปแล้วนั้น ได้ก่อความเจริญงอกงามแก่ชีวิตของศิษย์ ไม่มีคำกล่าวหรือคำขอบคุณใดที่จะทดแทนพระคุณของท่านทั้งหลายได้หมด ศิษย์จึงขอระลึกถึงคุณของครูทุกท่านและขอปฏิญานว่าจะปฏิบัติแต่สิ่งดีงาม ปฏิบัติแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติสืบไปค่ะ....(นาทีนี้ขออนุญาตงดติ๊งต๊องเนอะ ฮ่าๆๆๆๆๆ)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น